วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เค้กกล้วย (สูตรนี้ตอนทำงานอยู่ร้านเบเกอรี่นะ)

แป้งเอนกประสงค์ (ตราปีระมิด)                2        ก.ก.
แป้งเค้กชนิดพิเศษ (ตราทานตะวัน)          800    กรัม
ผงฟู                                                      6        ช้อนโต๊ะ
กล้วย(งอมจัด เกือบเน่า)                         2        ก.ก.
น้ำ                                                         1  1/3 ถ้วยตวง
ผงโซดา                                                    80       กรัม
ไข่ไก่                                                      18       ฟอง
น้ำตาล                                                      2    ก.ก.
เกลือ                                                      1        ช้อนโต๊ะ      
น้ำส้มสายชู                                              6        ช้อนโต๊ะ
กลิ่นกล้วย                                                1-2    ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช                                                 1กิโล + 1 1/2 ถ้วยตวง
(บางเจ้าแอบใส่วัตถุกันเสียไปด้วย ที่ร้านเรียกกันราเค้ก 50 กรัม แต่ไม่แนะนำนะ ไม่ดีต่อคนกิน)                              
วิธีทำ เริ่มเลยเอาง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตรองอะไรมากมาย (วอล์มเตา ที่240 -250)เตาอบแก๊ส 2ชั้น4ถาด ไฟล่างอย่างเดียว
1. ตวงกล้วยใส่หม้อตีขนาด10ลิตร ใส่น้ำตาล และเกลือ ตีกะหัวตะกร้อซัก5นาที หรือส่วนผสมเข้ากันดี
2. ใส่แป้งเอนกประสงค์+ผงฟู ตีต่อ พอเข้ากันก็ใส่แป้งเค้กประมาณ2นาที  ตามด้วย ผงโซดา ไข่  น้ำ น้ำส้มสายชู กลิ่นกล้วย ระหว่างตีต้องปาดขอบโถเรื่อยๆ รินน้ำมันพืชใส่ช้า ตีเข้ากันคราวนี้จะไม่ตีนานเพราะเดี๋ยวกล้วยจะเหนียว พอเข้ากันก็ 
3. ใส่ถุงมัดยาง แล้วตัดมุมถุง หยอดใส่ถ้วยกระดาษรองด้วยถ้วยเหล็ก ขนาด 2416  หยอดประมาณ3ส่วน4ของถ้วย
เอาเข้าเตาอบ อบไฟบนประมาณ8 นาที ดูให้เค้กยังสีขาวขึ้นได้ขนาดแต่ยังไม่มีสีเหลือง ก็เอาสลับถาดขึ้นเตาบนประมาณ2-3นาที ดูเค้กเป็นสีน้ำตาลแดง ไม่เข้มมาก เป็นอันเสร็จ
สูตรนี้ได้เค้กกล้วย ประมาณ430 ถ้วย
เราแพ็คใส่ถุงขนาด 7x11ใส่ขนมไป11ลูก จับจีบปากถุง ขาย ส่ง18 ปลีก20บาทต่อถุง
ถ้าขายหมด ได้กำไรครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว อยู่ที่การหยอด

การทำเบเกอรี่ และขนมต่าง สำหรับผู้เริ่มหัดและเริ่มเรียนรู้

อาหารการกิน
อาหารการกิน กิน กิน ดื่ม ดื่ม เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องบริโภคทุกวันอยู่แล้วนะคะ ฝนจะตกฟ้าจะร้อง ทุกคนก็ต้องกิน ยิ่งน้ำท่วม ก็ต้องยิ่งกักตุนของกิน ดิฉันเป็นคนนึงแหละ ที่อยากจะมีความรู้และมีธุระกิจเกี่ยวกับนาการกิน เพราะยังไงก็คิดว่าน่าจะไปได้ การทำธุระกิจทุกวันนี้ ล้วนมีคู่แข่งทั้งนั้นไม่ว่าจะธุระกิจอะไรก็แล้วแต่ บางคนว่าเปิดขายอันนี้แล้วเจ๊ง ขายโน๊นดีกว่า ดิฉันอยากจะบอกว่า จะทำธุระกิจอะไรก็ได้ แต่คุณต้องศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ และทุ่มแทแรงกายและแรงใจพอสมควร
(การเขียนบล๊อคนี้ ข้อมูลอาจจะไม่ถูกต้องตามสากลนะ เพราะดิฉันเขียนจากสมอง สดๆร้อน ประกอบกับประสบการณ์ที่มีอยู่น้อยนิดไม่ได้เตรียมข้อมูลมาจากแหล่งใด อาจมีการผิดพลาด อ่านแล้วพิจารณาเอาเองเด้อ)
เบเกอรี่ ไม่ว่าจะเป็น เค้ก คุ๊กกี้ ขนมปัง พาย ฯลฯ เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน ดิฉันว่าเป็นเพราะ วัฒนธรรมตะวันตกที่เข้ามา สำหรับดิฉัน การทำเบเกอรี่ขายเป็นอะไรที่เท่ห์อ่ะ เป็นอาหารนำสมัยของวัยรุ่น และทุกๆวัย มันล้วนมีศิลปะแอบแฝงกับวิทยาศาสตร์ ที่ไปด้วยกันอย่างกลมกลืมทีเดียว
แต่ก่อนเราจะไปถึงเลขสิบ หรือ ร้อย เรามาทำความเข้าใจ และรู้จัก แป้งและวัตถุดิบการทำเบเกอรี่กันเลยดีกว่า เพื่อไม่เสียเวลา
ส่วนผสมพื้นฐานของ เบเกอรี่ก็มี ประมาณว่า แป้งสาลี น้ำตาล นม เนย ไข่ ผงฟู สี กลิ่น และ ฯลฯ
แป้งสาลีนั้นก็แยกได้อีกเป็น3ประเภทด้วยกันนะคะ เพื่อคร่าวๆ (ไม่ต้องทราบรายละเอียดเยอะ รกสมองค่ะ)
1.แป้งเค้ก (มีความละเอียดมากที่สุด) เหมาะสำหรับทำเค้ก ต่างๆ ซาลาเปา ปุยฝ้าย หรือขนมที่ต้องการความนุ่มและเนื้อละเอียดค่ะ
2.แป้งสาลีเอนกประสงค์ (ความละเอียดปานกลาง) ทำขนมได้หลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเค้ก พัฟ ขนมปัง คุกกี้ ฯลฯ
3. แป้งขนมปัง (มีความหยาบและกรูเทนเยอะ) ใช้ทำขนมปัง หรือเนื้อขนมที่ไม่ต้องการความละเอียดมาก

เนย นม หรือไขมันต่างๆ มีรายละเอียดเยอะมาก แต่ดิฉันจะยกมาที่ใช้ก็ง่ายๆค่ะ
1. เนยเหลืองเข้ม เนยสด(เหลืองอ่อน) และเนยขาว มาการีน(ไขมันพืชต่าง)เราใช้ยี่ห้อใบไม้ทองเป็นลังนะ
2. นม ดิฉันใช้ นมสด นมข้นหวาน ถ้านมผงก็ หางนม และหัวนมผง จากออสเตรเลียนะ
3. น้ำมันพืชธรรมดา
4.ส่วนผสมอื่นๆก็ดูตามสูตรนะจ๊ะ อาจไม่เหมือนที่อื่นเพราะ มาadaptเอาเองจ่ะ